คำถามทั่วไป

GB Wallet คือกระเป๋าตังอิเล็กทรอนิกส์ ใบเดียวจบครบทุกการชำระเงิน ตอบโจทย์ทุก lifestyle การใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่ มีบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกการใช้จ่าย สามารถใช้จ่ายแทนเงินสดได้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย สนุกกับทุกความบันเทิงบนโลกออนไลน์ แบบไม่ง้อบัตรเครดิต เติมเน็ต, เติมโทร, เติมเงิน Easy Pass, และเติมเงินบัตรโดยสาร MRT ได้ทันทีที่ต้องการ พร้อมบริการอื่นๆ ทางการเงิน และสิทธิพิเศษมากมาย

ผู้ใช้บริการ GB Wallet สามารถสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการได้ง่ายๆ ดังนี้

สมัครผ่าน application ของ GB Wallet เพื่อยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (electronic Know-Your-Customer) ในการระบุตัวตนและยืนยันตัวตนผ่านบัตรประชาชน พร้อมการสแกนใบหน้าที่สะดวกรวดเร็ว

  • เลือกสมัครสมาชิก GB Wallet
  • ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ด้วย OTP
  • ถ่ายรูปหน้า-หลังบัตรประชาชน
  • กำหนดรหัส PIN
  • ถ่ายรูปสแกนใบหน้า

นอกจากนี้ผู้ใช้บริการยังสามารถเพิ่มขีดจำกัดในการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าตัง GB Wallet ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการยืนยันตัวตนโดยนำบัตรประชาชนตัวจริงของผู้ใช้บริการเสียบเข้ากับเครื่องอ่านบัตร (Dip Chip) ที่จุดบริการพาร์ทเนอร์ของ GB Wallet เพื่อยืนยันตัวตนอีกขั้น

เติมเงินผ่าน Mobile Banking
สามารถเชื่อมต่อไปยัง Mobile Banking ของธนาคารเพื่อทำการเติมเงินเข้ากระเป๋าตัง GB Wallet ได้ทันที

  • เลือกฟังก์ชั่นเติมเงิน
  • เลือกธนาคารที่ต้องการเชื่อมต่อ
  • ระบุยอดจำนวนเงิน
  • หลังจากเติมเงินเรียบร้อย จะได้รับใบเสร็จ
  • เลือกเมนู บัญชีของฉัน
  • เลือกบัญชีธนาคารที่ต้องการถอนเงินเข้าบัญชี
  • ยืนยัน รหัส PIN
  • หลังจากถอนเงินเรียบร้อย รับใบเสร็จ
  • เลือกเมนู บัญชี GB Wallet
  • โอนเงินด้วยเบอร์โทรศัพท์ ระบุเบอร์โทรศัพท์ และจำนวนเงิน
  • โอนเงินด้วย QR Code สแกน QR Code และระบุจำนวนเงิน
  • ยืนยันรหัส PIN
  • หลังจากโอนเงินเรียบร้อย รับใบเสร็จ
ค่าธรรมเนียมของบริการ จำนวนเงิน หมายเหตุ
หมวดการเติมเงิน (ต่อรายการ)
1. เติมเงินผ่านธนาคาร (Direct Debit และ Mobile Banking) ไม่มีค่าใช้จ่าย
หมวดการใช้บริการต่างๆ (ต่อรายการ)
2. โอนเงินไปยังบัญชี GB Wallet ด้วยกัน ไม่มีค่าใช้จ่าย
3. ถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารตนเอง 20 บาท
4. ซื้อสินค้าและบริการ ไม่มีค่าใช้จ่าย
หมวดการใช้งาน GB Card (Visa prepaid card) (ต่อรายการ)
5. การใช้งานบัตร GB Card
5.1 เปิดใช้งานบัตร Virtual GB Card ไม่มีค่าใช้จ่าย
5.2 ซื้อบัตร GB Card (Physical Card) 150 บาท
5.3 ค่าธรรมเนียมบัตรรายปี ไม่มีค่าใช้จ่าย
5.4 ค่าธรรมเนียมออกบัตรใหม่/ทดแทน บัตร GB Card ทุกประเภท 150 บาท
5.5 กรณีลูกค้าปฏิเสธค่าใช้จ่ายผ่านบัตร GB Card (Dispute) ไม่มีค่าใช้จ่าย
หมวดอื่นๆ (ต่อรายการ)
6. ค่าธรรมเนียมเก็บรักษาเงิน
6.1 ค่าธรรมเนียมรักษาเงิน (กรณีบัญชีไม่มีความเคลื่อนไหวติดต่อกันเกินกว่า 1 ปี) 50 บาท
  • เลือกเมนูโปรไฟล์และเลือกเพิ่มบัญชีธนาคาร
  • เลือกธนาคารที่ต้องการผูกบัญชี
    ยืนยัน OTP
  • ตรวจสอบเงื่อนไขการรับบริการ และเลือกยอมรับ
  • เลือกเลขที่บัญชีที่ต้องการผูกบัญชี
  • แสดง Pop-up ลงทะเบียนผูกบัญชีสำเร็จ (แอปธนาคาร)
  • แสดง Pop-up เชื่อมต่อธนาคารสำเร็จ (แอปจีบี วอลเล็ท)
  • เลือกที่เมนูโปรไฟล์
  • เลือกที่ปุ่ม เพิ่มบัตรเครดิต
  • กรอกข้อมูลบัตร
  • ยืนยัน OTP
  • ผูกบัตรสำเร็จ

วิธีการขอออกบัตร Physical Card

  • เลือกเมนู GB Card
  • Slide Virtual Card ไปด้านซ้าย
  • เลือก “แตะที่นี่เพื่อออกบัตรใหม่” หรือ กดปุ่ม “ออกบัตร Physical Card”
  • กรอกที่อยู่จัดส่งเอกสาร (ภาษาอังกฤษเท่านั้น)
  • เลือก “ยืนยันข้อมูล” และ “ตกลงและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บัตร GB Card”
  • กดปุ่ม “ออกบัตร Physical Card”
  • ยืนยันรหัส PIN
  • ลงทะเบียนบัตรสำเร็จ
  • รอการจัดส่งบัตร ประมาณ 14 วันทำการ

วิธีการเปิดใช้งานบัตร Physical Card

  • เลือกเมนู GB Card
  • Slide Virtual Card ไปด้านซ้าย
  • กดปุ่ม “เปิดใช้งานบัตร Physical Card”
  • กรอกหมายเลขบัตร 16 หลักและกด “ดำเนินการต่อ”
  • ยืนยันรหัส PIN
  • เปิดใช้งานบัตร Physical Card สำเร็จ

ข้อควรปฏิบัติหากมือถือสูญหายหรือถูกขโมย

ผู้ใช้บริการสามารถระงับการใช้งานบัญชี GB Wallet ได้ โดยติดต่อศูนย์บริการลูกค้าที่ หมายเลข 02 248 6240 เพื่อขอระงับการใช้บริการชั่วคราว บัญชี GB Wallet ของคุณจะไม่สามารถทำรายการได้จนกว่าผู้ใช้บริการจะติดต่อเพื่อขอยกเลิกระงับการใช้บริการด้วยตนเอง

คำถามเกี่ยวกับการสมัครบริการ

ร้านค้าที่ต้องการเป็นพันธมิตรกับ GB Wallet สามารถส่งเอกสารการสมัครในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทาง หน้าสมัครสมาชิกร้านค้า หรือส่งเอกสารการสมัครมาที่ help@xendit.th หรือ ติดต่อเรา

เราจะทำการตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ว่าร้านค้าที่สมัครสมาชิกนั้นมีสถานที่ประกอบกิจการอยู่จริง ประกอบธุรกิจจริง
และประกอบกิจการถูกต้องโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งนี้ GB Wallet ใช้วิธีการตรวจสอบ และการอนุมัติร้านค้าตามมาตรฐานสากล

การตรวจสอบร้านค้าเป็นไปตามกฎข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานกำกับของรัฐ เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมของร้านค้าและลูกค้า

ร้านค้าสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขยายช่องทางการชำระเงิน เพื่อรองรับวิธีการชำระเงินแบบสังคมไร้เงินสด และขยายฐานลูกค้าให้แก่ธุรกิจ

สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา

  • สำเนาบัตรประชาชน สำหรับลูกค้าสัญชาติไทย หรือ สำเนาหนังสือเดินทางและใบอนุญาตการทำงาน สำหรับลูกค้าที่ถือสัญชาติอื่นๆ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 20) ซึ่งออกให้โดยกรมสรรพากร (ถ้ามี)
  • สำเนาบัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน (ชื่อบัญชีต้องตรงกับเอกสารทั้งหมด)
  • รูปโลโก้ร้านค้า หรือเครื่องหมายการค้า
  • สำเนาหนังสือรับรองการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ ซึ่งออกให้โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    (เช่น หนังสือรับรองเกี่ยวกับเครื่องสำอาง, หนังสือรับรองเกี่ยวกับท่องเที่ยว, เป็นต้น)

สำหรับนิติบุคคล

  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือ หนังสือจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ
    หรือ หนังสือจัดตั้งคณะบุคคล
    พร้อมวัตถุประสงค์โดยต้องจดทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน (สำเนามีอายุไม่เกิน 6 เดือน)
  • สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของกิจการ หรือ ผู้มีอำนาจลงนาม (อายุ 20 ปี ขี้นไป)
  • กรณีชาวต่างชาติ สำเนาหนังสือเดินทางและใบอนุญาตการทำงานที่ยังไม่หมดอายุ
  • สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 20) ซึ่งออกให้โดยกรมสรรพากร
  • สำเนาบัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน (ชื่อบัญชีเดียวกับบริษัท)
  • รูปโลโก้บริษัท หรือเครื่องหมายการค้า
  • สำเนาหนังสือรับรองการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ ซึ่งออกให้โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    (เช่น หนังสือรับรองเกี่ยวกับเครื่องสำอาง, หนังสือรับรองเกี่ยวกับท่องเที่ยว, เป็นต้น)
Reference Code คือ หมายเลขอ้างอิง ที่แสดงการทำธุรกรรม หากท่านไม่ทราบสามารถเว้นว่างไว้ได้
เมื่อลูกค้าทำรายการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตสำเร็จ รายการจะแสดงสถานะ Authorize หมายถึง รายการสำเร็จแล้ว (วงเงินได้รับการอนุมัติ) และเมื่อรายการดังกล่าวถึงเวลา 20.00 น. สถานะจะเปลี่ยนเป็น Settle หมายถึง บริษัทได้เรียกเก็บเงินจากลูกค้าแล้ว
รายการชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ เดบิต และ รายการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต สามารถยกเลิกรายการได้ โดยทำรายการผ่านเว็ปไซด์ หรือแอปพลิเคชันบนมือถือของ GB Wallet ซึ่งการยกเลิกรายการแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
1 Void: คือ การยกเลิกรายการ ซึ่งร้านค้าสามารถยกเลิกรายการที่ชำระแล้วภายในวันเดียวกัน โดยรายการต้องมีสถานะเป็น Authorize
รายการดังกล่าวจะถูกยกเลิกทันที และร้านค้าจะไม่เสียค่าธรรมเนียมการทำรายการ
2 Refund: คือ การคืนเงินให้แก่ผู้ถือบัตร ซึ่งสามารถทำได้ตลอดเวลา เมื่อสถานะรายการเป็น settle แล้ว ระยะเวลาที่ลูกค้าจะได้รับเงินคืนขึ้นอยู่กับธนาคารที่ออกบัตร คุณจะไม่สามารถยกเลิกรายการได้กรณีที่รับการชำระเงินด้วยช่องทางเงินสด (QR Code, Bill Payment)
ร้านค้าสามารถทำ refund ได้ตามจำนวนที่ต้องการ แต่ไม่เกินจำนวนเต็มของรายการที่จะ refund
PIN คือรหัสตัวเลข 6 หลัก ใช้สำหรับยืนยันการยกเลิกรายการ ระบบจะกำหนดให้ร้านค้าตั้ง PIN ในครั้งแรกที่ทำการยกเลิกรายการ

ช่วยเหลือร้านค้า

GB Wallet คิดค่าธรรมเนียมร้านค้าตามยอดการขาย โดยอัตราค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับช่องทางการรับชำระเงิน เช่น บัตรเครดิต/เดบิต จ่ายแบบผ่อนชำระ คิวอาร์โค้ด จ่ายผ่านบิล หรือ GB Wallet ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจของร้านค้า หากร้านค้าสนใจ สามารถติดต่อ call center เพื่อสอบถามค่าธรรมเนียม
หรือ คลิกติดต่อเรา

ไม่สามารถทำได้ GB Wallet จะรวมเงินจากทุกรายการที่มีการชำระเงิน และจะโอนให้ร้านค้าตามวันที่ตกลงไว้
ร้านค้าจะได้รับเงินตามวันที่แสดงบนหน้า profile ของร้านค้า

ตัวอย่าง
หากหน้า profile แสดงวันรับเงิน (Transfer Due) เป็นวันอังคาร (Tue) GB Prime Pay จะสรุปยอดที่เกิดขึ้นทั้งหมดของร้านค้าในวันจันทร์ รายการบัตรเครดิต/เดบิต รายการผ่อน จะสรุปยอดทั้งหมด เวลา 20.00 น. รายการเงินสด QR code และ การจ่ายผ่านบิล จะสรุปยอดทั้งหมด เวลา 24.00 น. และ GB Prime Pay จะโอนยอดเงินทั้งหมดให้ร้านค้าในวันอังคาร

ค่าธรรมเนียมการโอนเงินให้ร้านค้ามี 2 กรณี

ยอดรวมการโอนเงิน น้อยกว่า 50,000 บาท บริษัทฯ คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงิน 20 บาท ยอดรวมการโอนเงิน มากกว่า 50,000 บาท บริษัทฯ ไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงิน

ตัวอย่าง 1
ร้านค้า A รับเงินทุกวันอังคาร ร้านค้า A มีรายการชำระเงิน 2 รายการคือ วันเสาร์จำนวน 4,000 บาท และวันอาทิตย์จำนวน 10,000 บาท ยอดเงินของร้านค้า A = (4,000 + 10,000) = 14,000 บาท บริษัทฯ โอนเงินให้ร้านค้า A ในวันอังคารจำนวน 14,000 – 20 = 13,980 บาท

ตัวอย่าง 2
ร้านค้า B รับเงินทุกวันอังคาร ร้านค้า B มีรายการชำระเงิน 2 รายการ คือ วันเสาร์จำนวน 30,000 บาท และ วันอาทิตย์จำนวน 40,000 บาท ยอดเงินของร้านค้า B = (30,000 + 40,000) = 70,000 บาท บริษัทฯ โอนเงินให้ร้านค้า B ในวันอังคารจำนวน 70,000 บาท โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงิน

*หมายเหตุ ตัวอย่างดังกล่าวยังไม่รวมค่าธรรมเนียมของแต่ละรายการ

คุณสามารถเปลี่ยนวันรับเงินให้เหมาะสมกับธุรกิจคุณได้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ GB Wallet เพื่อแจ้งความประสงค์

ยอดขั้นต่ำในการโอนเงินให้ร้านค้าคือ 100 บาท หากยอดรับชำระรวมกันไม่ถึง 100 บาท บริษัทฯ จะโอนเงินให้ในรอบถัดไปเมื่อยอดรวมครบ 100 บาท

ร้านค้าสามารถเข้าไปที่ลิงก์ลืมรหัสผ่าน เพื่อรีเซ็ตรหัสผ่าน โดยทำตามขั้นตอนตามลิงก์

ระบบ GB Prime Pay สามารถสร้าง sub-role เพื่อแบ่งหน้าที่การเข้าถึงข้อมูล และการใช้งานให้เหมาะสมแก่พนักงานแต่ละคน
อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบการใช้งานของแต่ละบัญชีได้อีกด้วย

ช่วยเหลือด้านเทคนิค

หลังจากร้านค้าได้รับการอนุมัติแล้ว GB Wallet จะส่ง public key กับ secret key ไปยังอีเมลที่สมัคร หากร้านค้าไม่ได้รับกรุณาติดต่อ it@gbprimepay.com โดยแจ้งรหัสร้านค้าหรืออีเมลที่สมัคร หรือสามารถคลิกติดต่อเรา
Token (customer key) เอาได้จากหน้า profile บนเว็บไซต์ของ GB Wallet โดยหลังจากเข้าระบบ GB Wallet
ไปที่ profile > เลื่อนลงมาล่างสุด > กด gen token
กรุณาติดต่อ info@gbprimepay.com เพื่อสร้างบัญชีทดสอบ
ทุกการเชื่อมต่อระหว่างร้านค้ากับ GB Wallet ต้องเป็นการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยผ่าน SSL (https)

GB Wallet Application

GB Wallet Company Name Change

We are excited to announce that we will be officially changing our entity name from GB Wallet Company Limited to Xendit Wallet Company Limited.

This change represents our commitment to growth, innovation, and delivering unparalleled value to our customers and partners as a part of our regional brand and group.

This name change will not impact any ongoing business operations or commitments. Our team remains dedicated to delivering the same high-quality services you have been receiving, and have come to expect from us.

Please feel free to reach out to us at help@xendit.th if you have any questions or concerns.

…………………………………………..………………………..

เเจ้งเปลี่ยนชื่อบริษัท จีบี วอลเล็ท

เรียนทุกท่าน

ทางบริษัทฯ ยินดีที่จะเเจ้งให้ท่านทราบว่าเรากำลังดำเนินการเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท จีบี วอลเล็ท จำกัด เป็น บริษัท เซ็นดิท วอลเล็ท จำกัด

การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นหนึ่งในการความมุ่งมั่นของเราที่จะเติบโต พัฒนานวัตกรรม และส่งมอบคุณค่าแก่คุณลูกค้าในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ระดับภูมิภาค

เราขอให้ท่านมั่นใจว่าการเปลี่ยนชื่อนี้จะไม่มีผลต่อการดำเนินงานธุรกิจหรือความมุ่งมั่นทางธุรกิจของเรา ทีมงานของเรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการคุณภาพสูงเหมือนเดิมที่ท่านคุ้นเคย

หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อเราได้ที่ help@xendit.th